• 14 May 2021 at 14:32
  • 291
  • 0

EA กำไรไตรมาส 1/64 กว่า 1.4 พันล้านบาท

รายงานข่าวจาก บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดําเนินงานไตรมาส 1 ปี 2564 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้รวม 4,706.43 ล้านบาท ลดลง 1.15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้ 4,761.41 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,411.85 ล้านบาท ลดลง 2.77% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,452.06 ล้านบาท

โดยธุรกิจไบโอดีเซล มีรายได้ 1,892.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.73% เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ในระรอกใหม่ของต้นปี 2564 ได้ส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำมันดีเซลน้อยลง จากภาคการท่องเที่ยว ขณะที่ราคาจําหน่ายเพิ่มขึ้นจากการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐ ในการประกาศให้น้ำมัน B10 เป็นดีเซลพื้นฐานของประเทศ ทำให้เกิดความต้องการ B100 เพิ่มขึ้น จึงมีการดูดซับอุปทานน้ำมันปาล์มในระบบ จนส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญปรับตัวสูงขึ้น ทำให้บริษัทสามารถจําหน่าย B100 ได้ในราคาที่สูงขึ้น ธุรกิจไฟฟ้า มีรายได้ 2,774.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.30% รายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เนื่องมาจากความเข้มของแสงที่สูงขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน และรายได้จากโรงไฟฟ้าชีวภาพ ในทางกลับกันโรงไฟฟ้าพลังงานลมมีรายได้ลดลงเล็กน้อย โดยมีผลจากอัตราค่าไฟฟ้าที่จําหน่ายได้มีอัตราน้อยกว่าปีก่อนเล็กน้อย เนื่องจากปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้ในช่วง peak ลดน้อยลง และธุรกิจอื่น มีรายได้ 35.67 ล้านบาท ลดลง 66.22% ส่วนใหญ่มาจากการขายสินค้าแบตเตอรี่ ของ Amita Technologies Inc. (ไต้หวัน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ EA ถือหุ้น 65.61% มีรายได้ลดลง จากการแพร่ระบาดของโควิด-19

สำหรับความคืบหน้าการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ประกอบด้วย โครงการแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน Amita Technology (Thailand) ของบริษัทย่อย ชื่อ บริษัท อมิตา เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จํากัด (ATT) ระยะที่ 1 กําลังการผลิต 1 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ปัจจุบันอยู่ระหว่างการทดสอบการทำงานของเครื่องจักรทั้งระบบ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเริ่มการผลิตจริง แต่จากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ทีมงาน ผู้บริหาร และผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่จะเข้าไปทดสอบระบบเครื่องจักร มีอุปสรรคในการเดินทางเข้าพื้นที่ได้ตาม กําหนดเวลาที่วางแผนไว้ แต่คาดว่าโรงงานจะเริ่มดำเนินการผลิตในระยะที่ 1 ได้ในช่วงกลางปี 2564

โดยระยะแรกจะจําหน่ายแบตเตอรี่ไปยังกลุ่มธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าภายในกลุ่มของบริษัทฯ ได้แก่ รถบัสไฟฟ้า และเรือไฟฟ้า หลังจากนั้น จึงจะทยอยเพิ่มกําลังการผลิตส่วนถัดไป เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของตลาด

บริษัทฯ ยังได้จัดตั้ง บริษัท ศูนย์ทดสอบแบตเตอรี่ ยานยนต์ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ อิเล็กทรอนิกส์ จํากัด หรือ BEV เพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนา และให้บริการทดสอบและรับรองคุณภาพของแบตเตอรี่ รวมถึง อุปกรณ์ต่าง ๆ ของยานยนต์ไฟฟ้า โดยในช่วงแรกจะให้บริการกับบริษัทที่อยู่ในเครือ ทั้งโรงงานแบตเตอรี่และโรงงานประกอบยานยนต์ไฟฟ้าของบริษัทฯ และระยะถัดไป จะเปิดให้บริษัทภายนอกเข้ามาใช้บริการ ซึ่งการจัดตั้งบริษัทดังกล่าวได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

บริษัทฯ ยังได้มีการลงนามเงินกู้สีเขียวเพื่อพลังงานทดแทน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยได้ลงนามในสัญญาเงินกู้สีเขียว (Green Loan) กับธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ ADB มูลค่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินกู้ที่ไม่ต้องมีหลักประกัน ระยะเวลา 3 ปี และมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของบริษัทฯ ในปัจจุบัน โดยนําเงินดังกล่าวไปลงทุนในการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบการผลิตของกลุ่มธุรกิจโรงไฟฟ้า และนําไปใช้ลงทุนในโครงการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานทั่วประเทศ

โครงการสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า EA Anywhere บริษัทฯ มีแผนการลงทุนติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 ได้ประกาศความร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จํากัด ทำการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า EA Anywhere ทั้งระบบ Ultra-Fast Charge (DC) และ Normal Charge (AC) ในพื้นที่ของศูนย์การค้าบิ๊กซี ที่มีศักยภาพ ปัจจุบันสถานีอัดประจุไฟฟ้า EA Anywhere มีกว่า 400 สถานี

โครงการเรือโดยสารไฟฟ้า MINE Smart Ferry ได้ร่วมมือกับกรมเจ้าท่า ทดลองเปิดให้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2563 เป็นต้นมา ในเส้นทางสาย Urban Line ที่ท่าเรือนนทบุรี ถึงท่าเรือสาทร และเร็ว ๆ นี้ จะให้บริการที่ท่าสะพานพระนั่งเกล้า และเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 บริษัท อี สมาร์ท ทรานสปอร์ต จํากัด ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย จํากัด (มหาชน) พัฒนาระบบชําระค่าโดยสารเรือไฟฟ้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แบบไร้การสัมผัส หรือผ่านบัตร EMV ซึ่งเป็นการรับชําระค่าโดยสารผ่านเครื่องรับชําระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) และได้เตรียมความพร้อม ด้วยการออกบัตร HOP ซึ่งเป็นบัตรเติมเงินอิเล็กทรอนิกส์สำใช้ชําระค่าโดยสารในเรือไฟฟ้า และมีแผนจะพัฒนาความร่วมมือเพื่อนําไปใช้กับระบบขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่นต่อไปในอนาคต

โครงการรถบัสไฟฟ้า ได้จัดตั้ง บริษัท แอ๊บโซลูท แอสเซมบลี จํากัด (AAB) เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตรถบัสและรถเพื่อการพาณิชย์ทุกประเภท โดยถือหุ้นทางอ้อมผ่านบริษัทย่อย ในสัดส่วน 55% และได้เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท เน็กซ์ พอยท์ จํากัด (มหาชน) (NEX) ในสัดส่วน 40% ซึ่งการลงทุนดังกล่าวเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในการใช้เทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ และการอัดประจุไฟฟ้าที่พัฒนาจากกลุ่ม EA เพื่อสร้าง Ecosystem ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถบัสไฟฟ้าได้ครบวงจร ตั้งแต่การผลิต ประกอบ จัดจําหน่าย ตลอดจนการขายและให้บริการหลังการขาย

สำหรับโรงงานของ AAB ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักร มีกําลังการผลิต 3,000-5,000 คันต่อปี มูลค่าการลงทุน 1,750 ล้านบาท โดยจะนําเข้าชิ้นส่วนจากต่างประเทศ มาประกอบร่วมกับชิ้นส่วนสำคัญที่ออกแบบและผลิตในประเทศ คาดว่าแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงกลางปี 2564

โครงการกรีนดีเซล และ PCM ได้มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้สายธุรกิจไบโอดีเซล ต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่ใช้น้ำมันปาล์มดิบที่เป็นสารตั้งต้น จัดตั้งบริษัท อีเอ ไบโอ อินโนเวชั่น จํากัด เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจําหน่ายผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์กรีนดีเซล หรือ Bio Hydrogenated Diesel (BHD) เพื่อนำมาใช้เป็นส่วนผสมของน้ำมันดีเซล ในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสะอาดของเครื่องยนต์ และการผลิตสารเปลี่ยนสถานะ (Bio-PCM) เพื่อนำมาใช้ในการควบคุมอุณหภูมิ เช่น เป็นส่วนประกอบของวัสดุก่อสร้างอาคาร หรือเส้นใยผ้า และอื่น ๆ เพื่อช่วยในการดูดซับ กักเก็บ ควบคุม และปล่อยความร้อนเพื่อรักษาอุณหภูมิ โดยสาร Bio-PCM นี้เป็นที่นิยมและมีความต้องการสูงในประเทศที่มีสภาพอากาศแปรปรวน

ปัจจุบัน โรงงานผลิตสาร Green Diesel และ Bio-PCM แห่งใหม่ที่จังหวัดระยอง มูลค่าการลงทุน 1,100 ล้านบาท เสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้เริ่มการผลิตระยะที่ 1 มีกําลังการผลิต 65 ตันต่อวัน โดยจะทำการผลิตผลิตภัณฑ์ Bio-PCM เป็นหลัก สำหรับการขยายกําลังการผลิตอีก 65 ตันต่อวัน ในระยะที่ 2 จะพิจารณาความต้องการของตลาด