SAPPE โชว์ไตรมาส 1/64 ทำกำไรสุทธิโต 2.5%

SAPPE โชว์ไตรมาส 1/64 ทำกำไรสุทธิโต 2.5% หลังคุมต้นทุนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ส่งสัญญาณตลาดต่างประเทศจะเห็นการฟื้นตัวชัดเจนต่อจากนี้
พร้อมเดิมเกมเร่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในครึ่งปีหลังเพิ่มเติม

‘บมจ. เซ็ปเป้’ หรือ SAPPE เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2564 มีรายได้รวม 772.6 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 85.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5% หลังบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รับตลาดต่างประเทศทยอยเห็นสัญญาณฟื้นตัว คาดส่งออกสินค้าได้มากขึ้น เดินเกมทยอยเปิดตัวสินค้าใหม่ในช่วงที่เหลือของปี

นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2564 (มกราคม-มีนาคม) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 85.0 ล้านบาท เติบโต 2.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 83.0 ล้านบาท หลังจากปรับกลยุทธ์เน้นให้สอดคล้องกับภาวะตลาดที่ชะลอตัวลงจากปัจจัยการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ในไทย โดยมุ่งเน้นบริหารจัดการต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ตลอดจนการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีกว่าเดิม

ขณะที่รายได้รวมทำได้ 772.6 ล้านบาท ลดลง 8.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี ซึ่งมีรายได้รวม 844.3 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานที่ดีเนื่องจากในไตรมาสนี้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ส่งผลกระทบให้ยอดขายเติบโตลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าซึ่งยังไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่อย่างใด

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SAPPE กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ โดยจะเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนของตลาดต่างประเทศตั้งแต่ไตรมาส 2/2564 และคาดว่าจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศดีขึ้น รวมถึงปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลนที่คลี่คลายลง

ส่วนแผนทำตลาดในประเทศ บริษัทฯ ยังคงรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Functional Drink โดยในช่วงที่เหลือของปี SAPPE มีแผนออกสินค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 20 SKUs ซึ่งหนึ่งในสินค้าใหม่นี้จะมีสินค้าแบรนด์ All Coco ที่เพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าในร้านค้าปลีกจากเดิม 2,000 จุด เป็น 8,000 จุด ขณะที่ความคืบหน้าของธุรกิจกัญชง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการยื่นขออนุญาตกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งบริษัทฯ ได้คิดค้นและพัฒนาสูตรสินค้าไว้เรียบร้อยแล้ว โดยรอความชัดเจนทางด้านกฎหมายต่าง ๆ