ยอดใช้น้ำมันเดือนม.ค.ร่วงเกือบ 10%

กระทรวงพลังงาน ระบุ ยอดการใช้น้ำมันเดือนมกราคมร่วงลงเกือบ 10% หลังราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง
 
นายพีระพล สาครินทร์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน บอกว่า ยอดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีจำนวนลดลงเกือบทุกหมวดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสาเหตุมาจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบระยะเดียวของปีก่อน รวมถึงปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจ ทำให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมประหยัดมากขึ้น

โดยในเดือนมกราคม ยอดใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน มีทั้งสิ้นวันละ 19.29 ล้านลิตร ลดลง 10.1% ซึ่งในส่วนนี้ เป็นการใช้แก๊ส
โซฮอล์วันละ 11.40 ล้านลิตร ลดลง 9.6% ขณะที่เบนซิน 91 มียอดใช้วันละ 7.5 ล้านลิตร ลดลง 10% ส่วนน้ำมันกลุ่มดีเซล มียอดใช้วันละ 50.07 ล้านลิตร ลดลง 9.7%
 
ขณะที่การใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ หรือ NGV มียอดใช้วันละ 163.39 ล้านลูกบาศก์ฟุต เพิ่มขึ้น 43.9%  ขณะที่ยอดใช้LPG มียอดใช้เดือนละ 420,000 กิโลกรัม เพิ่มขึ้น 21.7% โดยยอดใช้ LPG ในส่วนสถานีบริการ เป็นเพียงประเภทเดียวที่ลดลง 1.8% ส่วนยอดใช้ในครัวเรือนเพิ่มขึ้น 7.3% ภาคอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 52.4% และปิโตรเคมี 62.2% เนื่องจากเศรษฐกิจที่ขยาย
ตัวและการส่งออกดีขึ้น

ทั้งนี้สำหรับ ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบในเดือนมกราคม อยู่ที่ประมาณวันละ 800,000 บาร์เรล คิดเป็๋นมูลค่ามูลค่า64,000 ล้านบาท และน้ำมันสำเร็จรูปนำเข้าวันละ 42,000 บาร์เรล คิดเป็นมูลค่า 2,900 ล้านบาท ส่วนการนำเข้า LPG อยู่ที่ 110,000 ตัน มูลค่า 2,800 ล้านบาท