กระทรวงพลังงานยอมรับเป็นห่วงชะลอการลงทุนในมาบตาพุด กระทบความเชื่อมั่น และอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและธุรกิจต่อเนื่อง เพราะโรงแยก 6 ต้องชะลอออกไปอาจต้องนำเข้าแทน
นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน บอกภายหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวงพลังงาน ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือเรื่องการการชะลอการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยยอมรับว่ามีความเป็นห่วงว่าเรื่องดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยเฉพาะการชะลอโครงการโรงแยกก๊าซธรรมชาติโรงที่ 6 เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมต้นน้ำของธุรกิจปิโตรเคมี ที่จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่อเนื่องที่ต้องนำก๊าซฯ จากโรงแยกมาใช้เป็นวัตถุดิบ ซึ่งหากมีความจำเป็นจริง ๆ ก็อาจจะต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศแทน เนื่องจากเห็นว่าปัจจุบันธุรกิจปิโตรเคมีเริ่มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สำหรับความคืบหน้าของการชะลอโครงการที่เกี่ยวข้องกับด้านพลังงาน แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ โครงการที่ไม่ต้องจัดทำผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ มี 4 โครงการ โดยขณะนี้ได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ สผ. เพื่อตีความไปแล้ว 3 โครงการ ซึ่งหากพบว่า ถ้าไม่มีผลกระทบรุนแรงก็สามารถดำเนินการได้เลย
กลุ่มที่ 2 คือ โครงการที่ได้รับใบอนุญาตก่อนรัฐธรรมนูญ 2550 มีผลบังคับใช้ จำนวน 3 โครงการ ซึ่งขณะนี้ได้ยื่นต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรมไปแล้ว 1 โครงการ และอยู่ระหว่างหารือกับการนิคมอุตสาหกรรม หรือ กนอ.อีก 2 โครงการ และกลุ่มที่ 3 คือ โครงการที่ขออุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดจำนวน 11 โครงการซึ่งได้ยื่นต่อศาลไปแล้ว
กลุ่มที่ 4 คือ กลุ่มที่ขอผ่อนผันเฉพาะการก่อสร้างไม่รวมประกอบกิจการและยืนยันดำเนินการตามมาตรา 67 วรรค 2 จำนวน 6 โครงการ ซึ่งเข้าร่วมโครงการจำนวน 2 โครงการ และอยู่ระหว่างพิจารณาอีก 4 โครงการ และกลุ่มที่ 5 คือ ทุกโครงการจะต้องทำตามมาตรา 67 วรรค 2 ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ