บมจ.บ้านปู เตรียมงบ 466 ล้านเหรียญสหรัฐ ลงทุนใน 5 ปี

บมจ.บ้านปู เตรียมงบ 466 ล้านเหรียญสหรัฐ ลงทุนใน 5 ปี

นายชนินทร์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู กล่าวว่า ในปี 2553-2558 บริษัทฯจะใช้งบลงทุนทั้งหมด 466 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อลงทุนในแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจระยะยาว ที่จะมุ่งเน้นการขยายและพัฒนาธุรกิจถ่านหินมากขึ้น ซึ่งจะมีทั้งการขยายโครงการเดิม และการเข้าซื้อหรือลงทุนในสินทรัพย์ใหม่ๆ เพราะเชื่อว่าอุตสาหกรรมถ่านหินจะยังคงเติบโตต่อเนื่องไปอีกประมาณ 20 ปีข้างหน้า และยังเป็นธุรกิจที่บริษัทฯ มีความชำนาญและมองว่าจะสามารถต่อยอดจากจุดแข็งที่มีอยู่ได้

ส่วนในปีนี้ได้จัดสรรงบลงทุน ประมาณ 96 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อใช้ในการพัฒนาและขยายธุรกิจถ่านหินที่มีอยู่ในปัจจุบัน แบ่งเป็นการลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย 75 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับใช้ในการพัฒนาเหมืองบารินโต การศึกษาเพื่อพัฒนาเหมืองถ่านหินใต้ดินที่เหมืองอินโดมินโค และทรูบาอินโด การขยายท่าเรือบอนตัง การก่อสร้างสายพานขนถ่านหินของเหมืองอินโดมินโค และที่เหลืออีกจำนวน 21 ล้านเหรียญสหรัฐ จะใช้สำหรับการพัฒนาเหมืองเกาเหอ และการขยายเหมืองเฮ่อปี้ ในประเทศจีน

ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายการผลิตและจำหน่ายถ่านหินจากอินโดนีเซียไว้ที่ 23 ล้านตัน จาก 21.6 ล้านตันในปีที่ผ่านมา โดยปริมาณถ่านหินที่เพิ่มขึ้นมาจากเหมืองอินโดมินโค และเหมืองทรูบาอินโด และเหมืองบารินโตซึ่งจะผลิตเชิงพาณิชย์ในปลายปีนี้ ประมาณ 2 แสนตัน ส่วนโครงการเกาเหอ ซึ่งเป็นเหมืองถ่านหินใต้ดินตั้งในอยู่มณฑลซานซี ประเทศจีน จะเริ่มผลิตถ่านหินในไตรมาส 3 ของปีนี้ ที่ประมาณ 1.5 ล้านตัน ซึ่งจะทำให้จำนวนการผลิตถ่านหินในประเทศจีนของบ้านปูฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 3  ล้านตัน จากปีที่แล้วที่ 2.8 ล้านตัน

แม้ปริมาณขายถ่านหินในปีนี้จะเพิ่มขึ้น แต่คาดว่า ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยของบริษัทในปีนี้ จะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 65-72 เหรียญสหรัฐต่อตัน จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 71.7 เหรียญสหรัฐต่อตัน เป็นผลจากภาวะราคาตลาด ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดยคาดว่า เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 32-33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้รายได้จากการขายรวมของปีนี้จากธุรกิจถ่านหินและไฟฟ้าจะใกล้เคียงกับปีก่อน อยู่ที่ประมาณ 5.7 หมื่นล้านบาท ในส่วนของธุรกิจไฟฟ้าจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโรงไฟฟ้าบีแอลซีพี ลดลงในปีนี้ ซึ่งเป็นไปตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า

บริษัทฯ กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของพลังงานทางเลือก 2-3 ชนิด เช่น พลังงานชีวมวล พลังงานลม หรือพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งคาดว่า น่าจะได้เห็นการลงทุนของบริษัทฯ ในโครงการพลังงานทดแทนภายในปีนี้