กระทรวงพลังงาน ยันจำเป็น ต้องจัดทำแผนก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ในร่างแผน พีดีพี 2010 เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าในระยะยาว
 
นายแพทย์วรรณรัตน์ กล่าวถึงกระสข่าวต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า หรือ พีดีพี 2010 เพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานของประเทศที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งแผนดังดล่าว จะเป็นการกระจายเชื้อเพลิงในกระบวนการผลิตไฟฟ้าให้เกิดความสมดุล ไม่พึ่งพิงพลังงานชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไป เพราะอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านพลังงานในอนาคต ส่วนการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ต้องบรรจุในแผน พีดีพี 2010 และต้องผ่าน 3 กระบวนการหลัก คือ ความคุ้มค่าต่อการลงทุน มีความปลอดภัยหรือไม่ และการยอมรับของประชาชน จึงจะสามารถเดินหน้าการก่อสร้างได้ โดยการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ตามแผน มีจำนวน 5 โรง ระยะเวลา 10 ปี กำลังผลิตรวม 5,000 เมกะวัตต์ ซึ่ง 2 โรงแรกจะก่อสร้างใน 5 ปีแรก ส่วน 3 โรงที่เหลือ จะก่อสร้างใน 5 ปีถัดมา  ทั้งนี้ การตัดสินใจของประชาชน ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ไม่ได้วัดจากความรู้สึกหรือความกลัว
 

สำหรับกรณีกลุ่มเอ็นจีโอ ยื่นเสนอให้กระทรวงพลังงานยุบสำนักพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ หรือ สพน. นายแพทย์วรรณรัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ ต้องพิจารณาถึงความจำเป็น ไม่ควรใช้อารมณ์ในการตัดสิน  เพราะองค์กรดังกล่าวไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศ จึงไม่มีเหตุผลที่ควรจะยุบ หรือยกเลิก โดย สพน. จะทำหน้าที่ศึกษาผลกระทบจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยการคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และถ่านหิน จะต้องมีทางเลือก และทางออกให้กับรัฐบาลด้วย เพราะการคัดค้านการเกิดใหม่ของโรงไฟฟ้าต่างๆ อาจไม่ทันกับความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้นในอนาคต