ส.อ.ท.ชี้ 50 โครงการมาบตาพุดเดินหน้าลงทุนปีนี้

ส.อ.ท.ชี้ 50 โครงการมาบตาพุดเดินหน้าลงทุนปีนี้

ส.อ.ท. ระบุ 50 โครงการมาบตาพุดสามารถลงทุนต่อได้ภายในสิ้นปีนี้ หลังจัดทำ EIA-HIA แล้วเสร็จ ด้านสมาคมต่อต้านภาวะโลกร้อนจับตาการกำหนดประเภทกิจการส่งผลกระทบรุนแรง

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิพล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. บอกในงานประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อปรับปรุงรายการ "โครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมนุมอย่างรุนแรง ทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ"ว่า เป็นการปรับฟังความเห็น เพื่อกำหนดประเภทกิจการที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ครั้งสุดท้าย หลังจากที่ได้ทำการฟังความคิดเห็นมากแล้ว 5 ครั้ง

โดยต่อไปจากนี้คณะอนุกรรมการฟังความคิดเห็นโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมนุมอย่างรุนแรง ทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพย์กรธรรมชาติและสุขภาพ จะมีการสรุปเพื่อเสนอให้คณะกรรมการ 4 ฝ่ายฯ พิจารณาในวันที่ 8 เมษายนนี้ ก่อนเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติต่อไป

สำหรับความคืบหน้าการลงทุนในมาบตาพุด 50 โครงการที่ได้ทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ EIA และผลกระทบด้านสุขภาพ หรือ HIA  ตามรัฐธรรมนูญปี 2550 แล้ว 70-80% และคาดว่า จะแล้วเสร็จภายในปีนี้ หลังจากนั้นผู้ประกอบการจะยื่นขอคำร้องต่อศาลปกครองให้เดินหน้าทำการลงทุนได้ตามปกติ 

นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต่านสภาวะโลกร้อน บอกว่า หากคณะอนุมกรรมการฯ มีการปรับลดประเภทกิจการที่ส่งผลกระทบรุนแรงจากประกาศของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่งแวดล้อม เหลือน้อยกว่า 14 ประเภทกิจการ สมาคมจะทำการฟ้องร้องต่อศาลฯ เพราะภาคประชาชน เห็นว่าตามรัฐธรรมนูญปี 50 มาตรา 67 วรรค 2 เห็นว่า โครงการที่ส่งผลกระทบรุนแรงน่าจะมีไม่น้อย 30 โครงการ ที่เข้าข่ายทำลายทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การดูดทราย การทำเหมืองหิน แร่โลหะทองคำ

ส่วนกรณีที่สมาคมจะยื่นต่อศาลปกครองกลางให้ชะลอการลงทุน 181 โครงการทั่วประเทศ ที่เข้าข่ายมีผลกระทบต่อชุมนุมรุนแรง ขณะนี้จะยังไม่ดำเนินการ เนื่องจากจะให้เวลาผู้ประกอบการได้ปฏิบัติตามกฎหมายก่อน ซึ่งจะต้องรอการจัดตั้งองค์การอิสระ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนเมษายนนี้พิจารณาด้วย โดยหากผู้ประกอบการไม่ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนก็จะดำเนินการฟ้องร้องต่อไป