ครม.เศรษฐกิจ เห็นชอบส่งเสริมใช้น้ำมัน E85 แต่ต้องไม่กระทบต่อความมั่นคงอาหาร-พื้นที่การเกษตร

ครม.เศรษฐกิจ เห็นชอบส่งเสริมใช้น้ำมัน E85 แต่ต้องไม่กระทบต่อความมั่นคงอาหาร-พื้นที่การเกษตร

นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ หรือครม.เศรษฐกิจ ว่า ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจเห็นชอบการส่งเสริมการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอลล์ E85 ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ แต่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการไปดูความเป็นไปได้ในการเพิ่มประเภทน้ำมัน E85 และโครงสร้างอัตราราคาที่มีความเหมาะสมและคุ้มค่า ซึ่งจะไม่กระทบต่อความมั่นคงทางอาหารและพื้นที่ทางการเกษตร รวมทั้งไม่กระทบต่อโครงการในการส่งเสริมการใช้รถยนต์อีโคคาร์ด้วย
 
นอกจากนี้คณะกรรมการได้เห็นชอบกำหนดมาตรการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ E85 ในประเทศ ดังนี้
 
1.ลดภาษีสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ E85 ลงในอัตรา 3% จากโครงสร้างภาษีปัจจุบัน
 
2.ขยายระยะเวลาลดอากรนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูป E85 เป็น 60% จาก 70% สำหรับรถยนต์ E85 ขนาด 1,770 ซี.ซี. แต่ต้องไม่เกิน 3,000 ซี.ซี. จำนวนไม่เกิน 2,000 คัน จากเดิมที่จะหมดเขตภายใน 31 ธ.ค. 2552 เป็นหมดเขตภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลบังคับใช้
 
อีกทั้งได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังดำเนินปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ผู้ผลิตเอทานอลสามารถส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศได้ และเร่งจัดทำประกาศยกเว้นอากรนำเข้าชิ้นส่วน E85 ต่อไป และกรณีผลกระทบต่อผู้ผลิตอีโคคาร์ให้กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงการคลังพิจารณาแนวทางสนับสนุนการดำเนินนโยบายอีโคคาร์เพิ่มต่อไป