ก.พลังงาน เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยแหล่งพลังงาน

ก.พลังงาน เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยแหล่งพลังงาน

กระทรวงพลังงาน เพิ่มมาตรการดูแลพื้นที่ด้านพลังงานมากยิ่งขึ้น แม้จะยกระดับการเฝ้าระวังเป็นขั้นสูงสุดแล้วก็ตาม ด้านปตท.เตรียมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลร่วมด้วย

นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน บอกว่า ได้สั่งเพิ่มการดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ด้านพลังงานมากยิ่งขึ้น ทั้งคลังน้ำมัน โรงแยกก๊าซธรรมชาติ คลังก๊าซฯ โรงไฟฟ้าและสายส่งไฟฟ้า โรงกลั่นน้ำมัน หลังเกิดเหตุวินาศกรรมยิงระเบิดคลังน้ำมันของ บริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด หรือ แทปไลน์
         
แม้ก่อนการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง กระทรวงพลังงาน ได้ยกระดับการดูแลไปสู่ระดับสูงสุดแล้ว แต่ยังเกิดปัญหา ดังนั้นจึงได้สั่งการให้ดูแลพื้นที่ภายนอกมากยิ่งขึ้นตลอดเวลา และประสานงานกับฝ่ายความมั่นคง โดยเฉพาะตำรวจให้มีการจัดตั้งจุดตรวจ และตั้งด่านในพื้นที่เสี่ยง หรือส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลภายในพื้นที่ด้วย

นายแพทย์วรรณรัตน์ บอกด้วยว่า ในวันนี้ได้สั่งการให้อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เชิญผู้ประกอบการน้ำมันที่มีอยู่ประมาณ 80 ราย และผู้ประกอบการแก็สอีก 30 รายมาหารือกันเพื่อหาทางป้องกันโดยขอให้จัดเวรยามเฝ้าระวังสถานประกอบการของตัวเอง

นอกจากนี้ทางกระทรวงพลังงานจะมีการประสานกับ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาช่วยเฝ้าระวังสถานประกอบการทั้งหมดเหล่านี้ เนื่องจากไม่ทราบว่าเหตุการณ์ เช่นนี้จะเกิดขึ้นอีกเมื่อใด แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องนี้มีความเกี่ยวโยงกับการเมืองในขณะนี้แน่นอน

ด้านนายวิทยา หวังจิตรารักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก หน่วยธุรกิจน้ำมัน บมจ.ปตท.บอกว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ขยายเขตในการควบคุมดูแลพื้นที่คลังน้ำมันให้มีรัศมีวงกว้างขึ้น และดูแลเข้มงวดมากขึ้น และได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐเข้ามาช่วยดูแลในบางส่วน รวมถึงพื้นที่รอบๆคลังน้ำมัน 

หลังจากเกิดเหตุ การก่อวินาศกรรมยิงระเบิดเข้าไปในคลังน้ำมันของปตท.ที่อำเภอลำลูกกาจำนวน  2 ลูก ซึ่งลูกหนึ่งนั้นเป็นจรวด RPG ที่ยิงไปถูกถังน้ำมัน 1 ถัง ที่มีอยู่ทั้งหมด 4 ถัง ซึ่งถังที่ถูกยิงพบว่ามีน้ำมันรั่วออกไป 30,000 ลิตร ประเมินค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท และจะต้องใช้เวลาซ่อมประมาณ 60 วัน