กฟผ. คาดความต้องการใช้ไฟฟ้าปีนี้โต 10%

กฟผ. ระบุ ความต้องการใช้ไฟฟ้าปีนี้จะขยายตัวเฉลี่ย 10% หลังภาคการส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมวางแผนชะลอการเกษียณอายุของโรงไฟฟ้าออกไปอีก 1-2 ปี

นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. บอกว่า ปริมาณการใช้ไฟฟ้าในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัว 15% ทำให้กฟผ.คาดการณ์ว่าทั้งปีปริมาณการใช้ไฟฟ้าจะขยายตัวเฉลี่ย 10% เมื่อเทียบกับปีก่อน และทำสถิติสูงสุดที่ 24000 เมกกะวัตต์ เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

โดยสาเหตุที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีที่ขยายตัวได้ถึง 12% และการขยายตัวในภาคส่งออก 30%ซึ่งปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก

นายสุทัศน์ บอกด้วยว่า การปริมาณการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ทำให้ต้องชะลอการเกษียณอายุของโรงไฟฟ้าออกไปอีก 1-2 ปี และเร่งเดินหน้าโครงการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ของทางกฟผ. เนื่องจากยังมีปัญหาการชะลอโครงการสร้างโรงไฟฟ้าของภาคเอกชนไปอีก 2 ปี ที่อาจจะทำให้กำลังการผลิตสำรองจะลดลงประมาณ 10% ในปี 2557
 
สำหรับแผนการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในปี 2563 นั้น ให้เป็นการตัดสินใจของรัฐบาล แต่ทางกฟผ. ได้เตรียมแผน 2 แผน หากมีกรณีเลื่อนโครงการสร้างโรงฟฟ้าดังกล่าว โดยเตรียมสร้างโรงไฟฟ้าใช้ก๊าซธรรมชาติในอนาคตอีก 3 โรงที่พระนครเหนือ พระนครไต้ และบางปะกง รวมทั้งจะต้องเพิ่มประมาณการซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มเป็น 20% แต่ไม่สามาถซื้อไฟฟ้าเกิน 25% ได้ เพราะจะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
 
ส่วนมาตรการลดค่าครองชีพของประชาชนของรัฐบาลนั้น กฟผ. ยอมรับว่า ต้องรับภาระในส่วนของการคงค่า FT เฉลี่ยประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปี เพราะต้องนำไปใช้ในส่วนของการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ แต่คาดการณ์ว่า มีแนวโน้มที่ต้องรับภาระลดลงในสิ้นปีนี้เหลือ 6,000 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกไม่สูงถึง 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล