ถกแก้มาบตาพุด 19 ก.ค.นี้

ถกแก้มาบตาพุด 19 ก.ค.นี้

รัฐบาล เรียกถกแก้มาบตาพุด 19 กรกฎาคมนี้ คาดมีความชัดเจน 18 ประเภทกิจการรุนแรงภายใน 2-3 เดือน ด้านเอ็นจีโอ ขู่ฟ้องนายกรัฐมนตรี หากดึงดันประกาศ 18โครงการรุนแรง

นายไตรรงค์  สุวรรณคีรี  รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ บอกว่า  ในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้  รัฐบาลจะประชุมคณะทำงานเพื่อติดตามความคืบหน้าในการแก้ปัญหาการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด  และจะเร่งสรุปความชัดเจนเกี่ยวกับการประกาศ 18 ประเภทกิจการที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง ซึ่งจะทำให้โครงการในมาบตาพุดเดินหน้าต่อได้
 
ด้านนายพยุงศักดิ์  ชาติสุทธิผล  ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. บอกว่า ได้มีการหารือกับนายกรัฐมนตรีถึงกรณีที่ยังไม่สามารถออกประกาศ 18 ประเภทกิจการที่อาจส่งผลกระทบรุนแรง

โดยนายกรัฐมนตรียืนยันว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2- 3 เดือน ซึ่งจะทำให้ภาคเอกชนสามารถเดินหน้าโครงการได้ในช่วงปลายปีนี้ หรือ อย่างช้าต้นปีหน้า  ส่วนกรณีที่กระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมออกประกาศรายชื่อกิจการในเบื้องต้นก่อน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบในอนาคตด้วย

เอกชนเร่งรัฐเดินหน้าบัญชีกิจการรุนแรง

ขณะที่นายชายน้อย เผื่อนโกสุม อดีตคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ยอมรับว่า นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเสียความเชื่อมั่นกรณีคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติยังไม่ประกาศบัญชี 18 กิจการรุนแรง โดยให้กลับไปศึกษารายละเอียดให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือน เนื่องจากทำให้การลงทุนชะลอออกไปอีก

โดยเอกชนต้องการให้ภาครัฐเดินหน้าประกาศบัญชีโครงการที่มีความรุนแรงโดยเร็ว ซึ่งในส่วน 76 โครงการที่ถูกสั่งระงับนั้น จะเข้าข่ายกิจการรุนแรงหรือไม่ ขณะนี้ทุกโครงการยังเดินหน้าทำตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 วรรค 2 โดยได้มีการทำการศึกษารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ และผลกระทบด้านสุขภาพ หรือ เอชไอเอ แล้ว
 
ขู่ฟ้อง“อภิสิทธิ์”ดึงดันประกาศ18โครงการรุนแรง
 
ส่วนนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน อดีตคณะกรรมการ 4 ฝ่าย บอกว่า การที่คณะกรรมการ 4 ฝ่าย ได้เสนอให้รัฐบาลประกาศ 18 โครงการหรือ กิจกรรมประเภทรุนแรง ถือเป็นการกระทำที่ไม่มีกฎหมายใด หรือมีบทบัญญัติใดรองรับ เพราะการประกาศโครงการหรือกิจกรรมประเภทรุนแรง เป็นอำนาจขององค์การอิสระ (ถาวร) ตามพ.ร.บ.องค์การอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภา
         
นอกจากนี้ โครงการ หรือ กิจกรรมประเภทรุนแรง ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่ตรงกับความคิดเห็นของประชาชน นักวิชาการ และผู้มีส่วนได้เสียจำนวนมากทั่วประเทศ  เช่น โครงการขุดสำรวจน้ำมันหรือปิโตรเลียม //โครงการทำเหมืองหิน ระเบิดและย่อยหินก่อสร้าง ก็ไม่เข้าข่ายประเภทกิจการรุนแรง

ทั้งนี้ จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ทบทวนการประกาศรายชื่อ 18 ประเภทกิจการออกไป และควรจัดกระบวนการรับฟังเสียงสาธารณะสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญก่อน โดยหากนายกรัฐมนตรี ไม่นำเนินการตามสมาคมฯ จำเป็นต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรม เพื่อนำมาซึ่งการคุ้มครองสิทธิของประชาชนภายใต้เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ

ต่างชาติห่วงการเมือง-มาบตาพุด

ด้านนายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บอกว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯเตรียมไปโรดโชว์ที่ประเทศสิงคโปร์ในช่วงปลายเดือน สิงหาคมนี้ เพื่อไปให้ข้อมูลนักลงทุน  หลังตลาดหลักทรัพย์ฯ นำ บจ. 10 แห่งไปโรดโชว์อังกฤษร่วมกับกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 12-13 กรกฎาคม โดยพบว่า นักลงทุนยังมีความกังวล 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ สถานการณ์ทางการเมือง ปัญหามาบตาพุด และประเด็นสุดท้ายคือสภาพคล่องของตลาดหุ้นไทย