นายกฯ เตรียมประกาศประเภทกิจการมีผลกระทบรุนแรงภายใน 1-2 วันนี้

 นายกฯ เตรียมประกาศประเภทกิจการมีผลกระทบรุนแรงภายใน 1-2 วันนี้

 นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2553 (นัดพิเศษ)  ด้านก.พลังงานเผยโรงแยกก๊าซฯ 6 ไม่ติดประเภทกิจการรุนแรง

วันนี้ เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2553 (นัดพิเศษ) เพื่อพิจารณาร่างโครงการหรือกิจการที่อาจมีผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ

ที่ประชุมได้มีการพิจารณาร่างโครงการหรือกิจการที่อาจมีผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อมทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ จำนวน 18 ประเภท ตามข้อเสนอของคณะกรรมการสี่ฝ่ายและความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อาทิ 1. โครงการหรือกิจการที่ต้องทำ EIA และอยู่ในพื้นที่หรืออาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ เช่น แหล่งมรดกโลกที่ขึ้นบัญชีตามอนุสัญญาระหว่างประเทศ อุทยานประวัติศาสตร์ แหล่งโบราณสถาน พื้นที่ป่าอนุรักษ์ เป็นต้น

2. การถมทะเลหรือทะเลสาบนอกเขตชายฝั่งเดิม3. การก่อสร้างหรือขยายสิ่งก่อสร้างถาวรนอกชายฝั่งทะเลเดิมเพื่อกันคลื่นหรือกระแสน้ำในทะเล 4. เหมืองแร่ต่าง ๆ 5. โรงงานปิโตรเคมี 6. โรงงานฝังกลบหรือเผาของเสียอันตราย7. เตาเผาขยะติดเชื้อ 8. สนามบินและสนามบินที่มีการขยายทางวิ่ง 9. ท่าเทียบเรือ 10. เขื่อนเก็บกักน้ำหรืออ่างเก็บน้ำ11. กรมชลประทาน 12. โรงไฟฟ้า 13. ประตูระบายน้ำที่กั้นแม่น้ำ สายหลัก เป็นต้น

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขาฯ แจ้งเวียนมติดังกล่าวให้คณะกรรมการฯ ได้รับทราบเพื่อขอความเห็นชอบก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีและประกาศใช้ต่อไป
         
นอกจากนี้ ที่ประชุมเห็นชอบการแก้ไขเพิ่มเติมประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ ระเบียบปฏิบัติและแนวทางในการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม สำหรับโครงการหรือกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ

โดยเพิ่มเติมวรรคสองของข้อ 4 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอดังนี้“การนับระยะเวลาเริ่มต้น และระยะเวลาสิ้นสุด ตามที่กำหนดไว้ในเอกสารท้ายประกาศให้เป็นไปตามที่สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประกาศกำหนด”

ก.พลังงานเผยโรงแยกก๊าซฯ 6 ไม่ติดประเภทกิจการรุนแรง

นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน เผยโรงแยกก๊าซธรรมชาติแห่งที่ 6 ของบมจ.ปตท.(PTT) ไม่อยู่ใน 14 ประเภทกิจการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่าง รุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ และสุขภาพ แต่ต้องรอประกาศทางการอีกครั้งหนึ่ง

ขณะที่โครงการที่ถูกศาล ปกครองกลางระงับการดำเนินกิจกรรมชั่วคราวในพื้นที่มาบตาพุดทั้งหมด 76 โครงการ  เป็นโครงการที่กระทรวงพลังงานดูแล 27 โครงการ แต่ล่าสุดในส่วนนี้มี 1 โครงการ ที่ไม่ดำเนินการแล้ว
       
อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลจะออกประกาศ 14 ประเภทกิจการรุนแรงออกมานั้น  ทำให้มี 24 โครงการ มูลค่ารวม 1.2 แสนล้านบาท ที่ไม่ได้อยู่ในประเภทกิจการรุนแรง ขณะที่ยังคงเหลือเพียง 2 โครงการที่ติดอยู่ในประเภทกิจการรุนแรง ซึ่งรวมถึง โครงการผลิตโมโนเอทิลีน ไกลคอล 9.5 หมื่นตัน/ปี ของบริษัท ทีโอซี ไกลคอล จำกัด  ในเครือบมจ.ปตท.เคมิคอล (PTTCH) 
       
ทั้งนี้เมื่อปีที่แล้ว มีผู้ฟ้องคดีหน่วยงานรัฐ ที่อนุญาตให้ 76 โครงการในมาบตาพุด  ดำเนินกิจกรรม โดยไม่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรคสอง จนทำให้ศาลปกครอง  สั่งระงับการดำเนินกิจกรรมชั่วคราว ก่อนจะถอดบางโครงการที่ไม่เกี่ยวข้องไปบ้างแล้ว  และมีบางโครงการได้ชะลอการลงทุนออกไป 
       
ขณะที่ตามมาตรา 67 วรรคสองที่กำหนดให้โครงการที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อชุมชน  ต้องจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA),ผลกระทบด้านสุขภาพ(HIA) ,ประชาพิจารณ์ และการให้องค์การอิสระให้ความเห็นชอบ
       
ล่าสุดวันนี้ คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เห็นชอบ 14 ประเภทกิจการรุนแรง ออกมาแล้ว และจะไปปรับปรุงถ้อยคำ ก่อนจะออกเป็นประกาศต่อไปซึ่งคาดว่าจะภายใน 1-2 วันนี้ หลังจากนั้นเอกชนที่ไม่ติดอยู่ในประเภทกิจการรุนแรง สามารถนำประกาศไปยื่นขอ ต่อศาลฯ เพื่อขอถอดจากการถูกระงับการดำเนินกิจกรรมชั่วคราวต่อไป