เครือข่าย"ปชช."ฟ้องศาลปกครองยกเลิก 11กิจการรุนแรง

เครือข่าย"ปชช."ฟ้องศาลปกครองยกเลิก 11กิจการรุนแรง

เครือข่ายประชาชนฯ เตรียมฟ้องศาลปกครองยกเลิก 11 กิจการรุนแรง ชี้ เป็นการใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติโดยชัดแจ้ง ด้านนายกรัฐมนตรี แจงนักลงทุนญี่ปุ่น มั่นใจแก้ปัญหามาบตาพุดจบภายใน 2 เดือน


นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน บอกว่า สมาคมฯ เตรียมร่วมมือกับชาวบ้านทั่วประเทศ ฟ้องร้องศาลปกครองเพื่อให้ยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่มีมติกำหนดประเภทกิจการรุนแรงจำนวน 11 ประเภท เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา เพราะถือว่าเป็นการใช้ดุลยพินิจโดยมิชอบ มีลักษณะเป็นการเลือกปฏิบัติโดยชัดแจ้ง เป็นการกระทำตามหน้าที่ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

เนื่องจากไม่ถือแนวทางของเสียงส่วนใหญ่ของภาคประชาชนทั่วประเทศที่มีมติให้มีโครงการหรือกิจกรรมประเภทรุนแรงเบื้องต้นตามรัฐธรรมนูญจำนวน 18 โครงการหรือมากกว่า ซึ่งคณะกรรมการ 4 ฝ่าย ได้สรุปเสนอต่อนายกรัฐมนตรีแล้ว ทำให้มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมฯ ดังกล่าวจึงถือเป็นการบิดเบือนเจตนารมณ์ของกฎหมายและความต้องการของประชาชน ดังนั้นงานนี้คงไม่จบกันง่าย ๆ เหมือนที่รัฐบาลคิดไว้  ต้องเป็นมหากาพย์แห่งความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับรัฐบาลนายทุนกันต่อไป

ศาลนัดไต่สวนคดีมาบตาพุด 26 ส.ค.


นายศรีสุวรรณ  บอกด้วยว่า วันที่ 26 สิงหาคมนี้ เวลา 13.00 น. ศาลปกครองกลางได้แจ้งหมายมายังผู้ฟ้อง และผู้ถูกฟ้องคดี รวมทั้งผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด เพื่อให้ไปไต่สวนพิจารณาคดีครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะนัดฟังคำพิพากษาต่อไป
      

เครือข่ายประชาชนประชุมต้าน 29 ส.ค.


ด้านนายสุทธิ อัชฌาศัย ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนภาคตะวันออก บอกว่า ในวันนี้เตรียมแถลงข่าวการเคลื่อนไหวคัดค้านการประกาศ 11 ประเภทโครงการรุนแรง ใน 3 ประเด็น คือ //การประกาศประเภทกิจการรุนแรงบางประเภทไม่ถูกต้องตามหลักสิทธิชุมชน //การนัดหมายรวมพล เตรียมการเคลื่อนไหวใหญ่ในทุกรูปแบบ //และเตรียมนัดประชุมใหญ่เครือข่ายฯ ในวันที่ 29 สิงหาคมนี้ เพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวต่อไป

ขณะที่นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกว่า ในระหว่างการชี้แจงผลการประชุมหารือกับรัฐมนตรีเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ระหว่างวันที่  22-27 กรกฎาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้ชี้แจงนักลงทุนญี่ปุ่นถึงกรอบการแก้ไขปัญหามาบตาพุด ว่าน่าจะเสร็จสิ้นภายใน 2 เดือนนับจากนี้

เนื่องจากฝ่ายญี่ปุ่นขอทราบความคืบหน้าการแก้ปัญหา ซึ่งไทยได้ชี้แจงว่าเข้าใจว่าปัญหาดังกล่าวมีผลต่อการลงทุนของนักลงทุนญี่ปุ่น แต่ปัญหานี้เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของประชาชนไทย ดังนั้นจึงต้องมีการรับฟังความเห็นอย่างรอบด้านจากทุกภาคส่วน
 
ปตท.เดินหน้าโรงแยกก๊าซฯหน่วยที่ 6

ส่วนนายชายน้อย เผื่อนโกสุม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น บอกว่า ปตท.จะรอการประกาศ 11 ประเภทกิจการรุนแรงของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติอย่างเป็นทางการ หลังจากนั้นจะยื่นเรื่องต่อศาลปกครองเพื่อขอถอดถอนโครงการโรงแยกก๊าซธรรมชาติหน่วยที่ 6 ออกจากบัญชีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการบรรเทาทุกข์ชั่วคราว เนื่องจากโครงการนี้ไม่อยู่ในข่าย 11 กิจการรุนแรง ทำให้ภายในไตรมาส 3 จะสามารถเดินเครื่องโรงแยกก๊าซฯ หน่วยที่ 6 ได้แน่นอน

กระทรวงอุตฯเรียกเอกชนหารือวันนี้


นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. บอกว่า วันนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้เชิญผู้ประกอบการมาหารือเกี่ยวกับปัญหาการลงทุนในมาบตาพุด คาดว่าจะมีการสรุป รายละเอียดโครงการลงทุนในมาบตาพุดที่เข้าข่ายหรือไม่เข้าข่ายเป็นกิจการที่กระทบชุมชนอย่างรุนแรง  ตลอดจนแนวทางการดำเนินงานทั้งหมด 

โดยภาคเอกชนเตรียมจะนำประกาศกิจการรุนแรงดังกล่าวมาเทียบเคียงกับโครงการลงทุนที่ถูกระงับว่าเข้าข่ายหรือไม่ หากโครงการใดไม่เข้าข่ายกิจการรุนแรงผู้ประกอบการจะขอหน่วยงานรัฐอนุญาตให้ดำเนินการได้ คาดว่าปลายปีนี้จะมีโครงการลงทุนหลายโครงการที่สามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ ส่วนกิจการที่เข้าข่ายรุนแรง และทำ เอชไอเอ แล้วก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการที่เหลือของรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 2 ต่อไป

ใช้ประกาศ 11 กิจการต่อสู้ในศาล


นายพยุงศักดิ์ บอกด้วยว่า สำหรับกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับศาลปกครองกลาง เอกชนแต่ละโครงการก็จะมีส่วนในการแจ้งข้อมูลใหม่ต่อศาลเพื่อประกอบการพิจารณาคดี ส่วนกระทรวงอุตสาหกรรมอาจทำหน้าที่ประสานกับอัยการในการยื่นข้อมูลต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอปลดล็อคจากคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว หรืออาจจะนำข้อมูลส่งให้ศาลปกครองกลางพิจารณาคดีหลักในวันที่ 26 สิงหาคมนี้