ก.พลังงาน ชงกพช. 30 ธ.ค. เคาะสัญญารับซื้อไฟฟ้า ไซยะบุรี

นาย ณอคุณ สิทธิพงษ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุ จะลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันในส่วนของน้ำมันดีเซล หากราคาน้ำมันยังปรับตัวสูงขึ้นเกิน 30 บาทต่อลิตร หลังเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ว่า เป็นเรื่องที่กระทรวงการคลังพิจารณา หากปรับลดภาษีจะทำให้ราคาขายปลีกลดลงไปโดยปริยาย อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 30 ธันวาคมนี้ กระทรวงพลังงาน จะเสนอกรอบการดูแลราคาน้ำมันดีเซล ด้วยการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เข้ามาดูแลในอัตราไม่เกิน 5,000 ล้านบาท หากมากกว่านี้ ทางกระทรวงการคลัง และกระทรวงพลังงาน จะหารือร่วมกันว่าจะใช้มาตรการใดมาดูแล ทั้งนี้ ยอมรับว่า เป็นห่วงราคาน้ำมันที่กำลังปรับตัวสูงขึ้น แต่หากราคาน้ำมันไม่ปรับสูงเกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ก็คงจะไม่มีผลกระทบมากนัก และถือเป็นโอกาสดีที่กระทรวงพลังงาน จะเร่งส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทน ทั้งไบโอดีเซล และแก๊สโซฮอล์ อี85

นาย ณอคุณ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุม กพช. ยังจะหารือเรื่องการปรับราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ แอลพีจี หน้าโรงกลั่นให้อิงราคาตะวันอ อกกลาง ซึ่งจะทำให้ปริมาณก๊าซฯ ในส่วนนี้เพิ่มขึ้นในตลาด 50,000 ตันต่อเดือน และจะช่วยลดเงินกองทุนน้ำมันฯ ที่เข้ามาอุดหนุนปีละประมาณ 1,200 ล้านบาท เพราะทำให้กองทุนน้ำมันฯ ไม่ต้องเสียค่าขนส่งแอลพีจี ในการนำเข้า ที่มีอัตราสูงถึง 50 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และที่สำคัญ ในปี 2553 ซึ่งมีการนำเข้าแอลพีจีถึง 1.5 ล้านตัน ทำให้เกิดปัญหาเรื่องโลจิสติกส์ เพราท่าเรือเขาบ่อยา จ.ชลบุรี รองรับการจอดเรือแอลพีจี ไม่เพียง 6 ลำเท่านั้น จึงไม่สามารถที่จะนำเข้าได้เพิ่มขึ้น จึงต้องหาทางลดการนำเข้าให้มากที่สุด 

นอกจาก นี้ ที่ประชุมยังจะพิจารณาเรื่องการเสริมสร้างความมั่นคงด้านไฟฟ้า ด้วยการรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการเขื่อนไซยะบุรี ซึ่งจะเป็นการเห็นชอบร่างสัญญาการลงนามซื้อขายไฟฟ้า หรือ พีพีเอ โดย โครงการนี้ มีกำลังการผลิต 1,260 เมกะวัตต์ ลงทุนประมาณ 90,000 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นใหญ่ คือ บริษัท ช.การช่าง และจะใช้เวลาก่อสร้าง 7-8 ปี โดยกระแสไฟฟ้าร้อยละ 90 จะขายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. โดยผ่านสายส่งเข้ามาในจังหวัดน่านและเลยของไทย คาดว่า จะผลิตไฟฟ้าเข้าสู่ระบบได้ในปี 2559

ทั้งนี้ นายณอคุณ สิทธิพงษ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน  เข้าสักการะพระพรหมที่อาคารเอ็นเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ หรือ เอ็นโก้ โดยถือฤกษ์ธงชัยวันนี้  เวลา 10.35 น.ย้ายที่ทำงานของกระทรวงพลังงาน จากเชิงสะพานยศเส มาอยู่ที่อาคารเอ็นโก้ อาคารบี อย่างเป็นทางการ ส่วนนายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะย้ายห้องทำงานในช่วงหลังปีใหม่แล้ว

ด้านนาย ดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. กล่าวว่า ที่ประชุม กกพ. เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม ได้ผ่านความเห็นชอบโครงการรับซื้อไฟฟ้าขนาดเล็ก หรือ เอสพีพี  2,000 เมกะวัตต์แล้ว ตามที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. ได้คัดเลือกมา ซึ่งจะมีการส่งไฟฟ้าเข้าระบบ ในปี 2558-2564 นอกจากนี้ กกพ.ยังมอบหมายให้ กฟผ.คัดเลือกในส่วนที่เหลือ อีก 1,500 เมกะวัตต์ ตามที่ คณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ หรือ กพช. เห็นชอบไปแล้ว โดยคัดจาก รายชื่อที่เอกชนเสนอมาตัวเข้ามาพร้อมกับการ ประกาศคัดเลือก รอบแล้ว ซึ่งมีการเสนอมากว่า 4,000 เมกะวัตต์ การเร่งรับซื้อไฟฟ้าเอสพีพีนี้ ก็จะทำให้สามารถระบบไฟฟ้ามีความมั่นคงเพิ่มขึ้น     

ขณะที่ นายนพพล มิลินทรางกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง กล่าวว่า ในขณะนี้ คาดว่า บริษัทจะได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าในโครงการเอสพีพี จำนวน 3 โรง กำลังการผลิตรวมประมาณ 400 เมกะวัตต์ โดยเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตร ซึ่งจะมีการก่อสร้างในพื้นที่ภาคกลาง และภาคตะวันตก ใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนจะเป็นการต่อยอดธุรกิจ และเสริมสร้างความมั่นคงของระบบไฟฟ้า โดยจะทยอยผลิตไฟฟ้าเข้าระบบในปี 2558  

ส่วนปี 2554 บริษัท กำหนดงบลงทุน 16,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุน โครงการเซเปียน-เซน้ำน้อย ใน สปป.ลาว โครงการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ ,เอสพีพีและอื่นๆ โดยพลังงานแสงอาทิตย์นั้นมีเป้าหมายลงทุนให้ได้ 100 เมกะวัตต์ จากที่ขณะนี้ มีข้อตกลงเบื้องต้น 30 เมกะวัตต์ สำหรับรายได้ในปี 2553 คาดว่า จะมากกว่าที่ประมาณการณ์ไว้ ขณะที่ปี 2554 น่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับปีนี้ แต่ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจด้วย สำหรับการลงทุนโครงการเขื่อนไฟฟ้าไซยะบุรี ในลาว นายนพพล กล่าวว่า บริษัทสนใจที่จะร่วมลงทุนในโครงการดังกล่าว  แต่ก็ขึ้นอยู่กับ ช.การช่วงผู้ถือหุ้นใหญ่จะพิจารณาเห็นชอบอย่างไร