แนะรัฐปรับเกณฑ์ลอยตัวแอลพีจีภาคอุตฯ
ผู้ค้า แนะรัฐปรับเกณฑ์แยกประเภทการใช้แอลพีจีภาคอุตสาหกรรมจากขึ้นต่ำ 500 กิโลกรัมต่อเดือนเป็น 1,000 กิโลกรัม หวั่นผู้ประกอบการรายย่อยได้รับผลกระทบ
นายชิ ษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญนายกสมาคมผู้ค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ แอลพีจี บอกว่า ในเดือนกุมภาพันธ์จะยื่นหนังสือไปยังกรมธุรกิจพลังงาน เพื่อขอให้ทบทวนหลักเกณฑ์ในการแยกประเภทแอลพีจีภาคอุตสาหกรรมใหม่ จากเดิมกำหนดผู้ที่ใช้แอลพีจีมากกว่า 500 กิโลกรัมต่อเดือน เป็น 1000 กิโลกรัมต่อเดือน ที่กำหนดให้จะต้องขอใบอนุญาตในการครอบครอง และเปลี่ยนจากถังขนาด 48 กิโลกรัมเป็นถังขนาดใหญ่ ซึ่งจะเข้าข่ายเป็นผู้ใช้ภาคอุตสาหกรรมและราคาแอลพีจีจะต้องปรับเพิ่มขึ้น ตามนโยบายรัฐบาล เพื่อที่จะไม่กระทบต่อธุรกิจเอสเอ็มอี รวมทั้งร้านค้าที่จำหน่ายแอลพีจีรายเล็กด้วย
ส่วนนาย วีระพล จิรประดิษฐ์กุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน หรือ สนพ. บอกว่า กระทรวงพลังงาน ได้เตรียมนโยบายช่วยเหลือภาคเอกชนโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมกลุ่มเซรามิคและ เครื่องแก้ว จังหวัดลำปาง ที่ได้รับกระทบต้นทุนการผลิตจากแผนการปรับโครงสร้างราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ แอลพีจี ในภาคอุตสาหกรรมที่จะเริ่มทยอยปรับขึ้นแบบขั้นบันไดตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้ เป็นต้นไป
ทั้งนี้ จากการเก็บข้อมูลล่าสุดพบว่า มีโรงงานใช้แอลพีจีอยู่จำนวน 897 แห่ง ใช้แอลพีจีอยู่ 747,000 ตันต่อปี มูลค่าการใช้แอลพีจีประมาณ 13,700 ล้านบาทต่อปี
แนะรัฐปรับเกณฑ์ลอยตัวแอลพีจีภาคอุตฯ