ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการเดือนพ.ค.ทรุด 4 เดือนติด
ความเชื่อมั่นผู้ประกอบเดือนพฤษภาคมปรับตัวลดลง 4 เดือนติดต่อกัน แตะ 94.7 จุด หลังความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมจนทำให้รัฐบาลต้องประกาศวันหยุดราชการพิเศษเพิ่มถึง 1 สัปดาห์
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทย ในเดือนพฤษภาคม พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม อยู่ที่ระดับ 94.7ปรับตัวลดลงจากเดือนเมษายนที่ระดับ 99.3 ถือเป็นการปรับตัวลดลง 4 เดือนติดต่อกัน และค่าดัชนีฯต่ำกว่าระดับปกติที่ 100 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2
สำหรับสาเหตุมาจากเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองที่เกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมจนทำให้รัฐบาลต้องประกาศวันหยุดราชการพิเศษเพิ่ม 1 สัปดาห์ส่งผลกระทบให้ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการรายใหญ่ และรายย่อยต้องหยุดหรือ ลดชั่วโมงการทำงานเป็นผลให้ปริมาณการผลิตลดลง ซึ่งเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจภายในประเทศอย่างมาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมขนาดย่อม
ส่วนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และอุตสาหกรรมที่มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ เช่น อุตสาหกรรมยาง ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องประดับ ยังมีความเชื่อมั่นปรับตัวสูงขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากคำสั่งซื้อจากต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นด้านการส่งออก
นายพยุงศักดิ์ บอกด้วยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมคาดการณ์ใน 3 เดือนข้างหน้า ได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 107.4 จากเดือนเมษายนที่ระดับ 105 ทั้งนี้ผู้ประกอบการยังคงคาดการณ์ว่ายอดคำสั่งซื้อ ยอดขาย ปริมาณการผลิต และผลประกอบการจะปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีความเห็นสอดคล้องกันว่ารัฐบาลควรเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งเร่งแก้ไขปัญหามาบตา
พุด ให้การสนับสนุนการช่วยเหลือทางการเงินด้วยการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและควรเร่งแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน โดยให้มีการสนับสนุนพัฒนาแรงงานให้เพียงพอต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรม หรือ สนับสนุนการใช้แรงงานต่างด้าวด้วยการลดขั้นตอนการดำเนินการลง